ธันวาคม 2565 คลัง
พระยาห์เวห์ ผู้สร้างทางข้ามในทะเล เป็นทางในน้ำที่ซัดส่ายไปมาพระองค์พูดว่า “ไม่ต้องจดจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หรือไปคิดถึงอดีต ดูสิ เรากำลังจะทำสิ่งใหม่ และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้วเจ้าไม่เห็นหรือ เราจะทำทางในทะเลทราย และให้พวกแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
เราพูดเรื่องพวกนี้เพื่อว่าคุณจะได้มีสันติสุขจากการที่มีส่วนในเรา ในโลกนี้คุณจะมีปัญหาเดือดร้อนสารพัด แต่ให้เข้มแข็งไว้ เพราะเราชนะโลกแล้ว”
“อย่ากลุ้มใจไปเลย ขอให้วางใจพระเจ้าและวางใจเราด้วย ในบ้านของพระบิดาของเรามีห้องหลายห้อง ถ้าหากไม่มีเราก็คงไม่บอกคุณหรอกว่า เรากำลังไปเตรียมที่ไว้ให้ พอเราเตรียมเสร็จแล้ว ก็จะกลับมารับคุณไปอยู่กับเรา
“เชิญมาสิ ทุกคนที่รู้สึกเหนื่อยใจและแบกภาระหนัก แล้วเราจะให้พวกคุณหายเหนื่อยใจ"
จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด หัวใจทั้งดวงของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด และอย่าลืมบุญคุณทั้งสิ้นของพระองค์ พระองค์คือผู้ที่อภัยให้กับความผิดบาปทั้งสิ้นของเจ้า พระองค์คือผู้ที่รักษาเจ้าให้หายจากความเจ็บป่วยทั้งสิ้น
สิเมโอนก็อุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน แล้วสรรเสริญพระเจ้าว่า “ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ตอนนี้ขอให้ปลดปล่อยทาสคนนี้ให้ไปเป็นสุขได้แล้ว ตามที่พระองค์ได้บอกไว้ เพราะดวงตาของข้าพเจ้าได้เห็นความรอด ที่พระองค์เตรียมไว้แล้วให้ชนชาติทั้งหลายได้เห็น พระองค์เป็นแสงสว่างที่ส่องให้กับคนที่ไม่ใช่ยิวเห็นทางของพระองค์ และนำเกียรติอันยิ่งใหญ่มาให้กับคนของพระองค์”
เพราะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา พระองค์ให้ลูกชายคนหนึ่งกับเรา และสิทธิอำนาจก็จะตกอยู่ที่บ่าของเด็กคนนี้ และเขามีชื่อว่า “ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ นักรบที่ทรงพลังเหมือนพระเจ้า พระบิดาตลอดกาล เจ้าชายแห่งสันติสุข”
พวกเขา [คนเลี้ยงแกะ] รีบไป และได้พบมารีย์กับโยเซฟพร้อมกับเด็กทารกนอนอยู่ในรางหญ้า เมื่อเห็นเด็กทารกแล้ว พวกเขาก็เล่าให้คนที่อยู่ที่นั่นฟังว่าทูตสวรรค์พูดอะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้ เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ก็ประหลาดใจมาก แต่มารีย์ก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและนึกถึงเรื่องนี้อยู่เสมอๆ เมื่อคนเลี้ยงแกะกลับไปแล้ว พวกเขาก็ยกย่องสรรเสริญพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พวกเขาได้ยินและได้เห็นมา ซึ่งเกิดขึ้นจริงตามที่ทูตสวรรค์ได้บอกไว้
เพราะวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดมาเกิดแล้วที่เมืองของดาวิด พระองค์คือพระคริสต์ องค์เจ้าชีวิต สิ่งที่จะบอกให้เจ้ารู้ว่าเป็นพระองค์คือ เจ้าจะพบเด็กทารกที่นอนอยู่ในรางหญ้าและมีผ้าอ้อมห่อตัวไว้” ในทันใดนั้น ก็มีทูตสวรรค์หมู่ใหญ่ลงมาจากสวรรค์ มารวมกับทูตสวรรค์องค์แรกนั้น และพากันร้องสรรเสริญพระเจ้าว่า “สรรเสริญพระเจ้าบนสวรรค์สูงสุด และขอให้คนที่ทำให้พระเจ้าพอใจ ได้รับสันติสุขในโลกนี้”
ที่ทุ่งหญ้านอกหมู่บ้าน มีคนเลี้ยงแกะที่กำลังดูแลฝูงแกะอยู่ในตอนกลางคืน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์เจ้าชีวิตมาปรากฎตัวให้พวกเขาเห็น และรัศมีขององค์เจ้าชีวิตส่องสว่างล้อมรอบพวกเขา พวกเขาตกใจกลัวมาก แต่ทูตสวรรค์พูดว่า “ไม่ต้องกลัว เรามีข่าวดีมาบอก เป็นข่าวที่จะทำให้ทุกคนดีใจ เพราะวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดมาเกิดแล้วที่เมืองของดาวิด พระองค์คือพระคริสต์ องค์เจ้าชีวิต
ในระหว่างที่พวกเขาอยู่ที่นั่นก็ถึงกำหนดที่มารีย์จะคลอดลูก มารีย์คลอดลูกเป็นผู้ชาย นางจึงเอาผ้าอ้อมพันเด็กทารกนั้นวางไว้บนรางหญ้า เพราะไม่มีที่ไหนว่างให้พวกเขาพักเลย
ในเวลานั้น จักรพรรดิออกัสตัส ออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคนทั่วทั้งอาณาจักรโรมันกลับไปบ้านเกิดของตนเพื่อจดทะเบียนสำมะโนครัว โยเซฟซึ่งสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด จึงต้องออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธ ในแคว้นกาลิลี ไปเมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของกษัตริย์ดาวิด เขาพามารีย์คู่หมั้นของเขาซึ่งตั้งท้องอยู่ไปด้วย เพื่อไปจดทะเบียนสำมะโนครัวด้วยกัน
ลูกน้อยเอ๋ย เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าของพระเจ้าสูงสุด เพราะเจ้าจะนำหน้าองค์เจ้าชีวิต เพื่อเตรียมทางให้กับพระองค์ เพื่อจะบอกคนของพระเจ้าว่าพวกเขาจะรอด ทางที่จะรอดนั้นก็คือพระเจ้ายกโทษบาปของพวกเขา เพราะความเมตตาสงสารของพระเจ้า แสงจากสวรรค์ใกล้จะส่องลงมาถึงพวกเราแล้วเหมือนแสงของวันใหม่
“สรรเสริญองค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของพวกอิสราเอล เพราะพระองค์มาเยี่ยมเยียนคนของพระองค์ และได้ปลดปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ พระองค์ได้ส่งพระผู้ช่วยให้รอดที่มีพลังอันแข็งแกร่งมาให้เรา โดยให้เกิดในตระกูลดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์ ทุกอย่างเป็นไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ในสมัยโบราณ
ในขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตขององค์เจ้าชีวิตมาเข้าฝันโยเซฟ และบอกว่า “โยเซฟ ลูกหลานของดาวิดไม่ต้องกลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาหรอก เพราะเด็กในท้องของเธอนั้น เกิดจากฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ มารีย์จะคลอดลูกชาย ให้ตั้งชื่อเด็กนั้นว่า ‘เยซู’ เพราะเขาจะช่วยคนของเขาให้พ้นจากบาปต่างๆ ของพวกเขา”
แล้วมารีย์พูดว่า “ทั้งจิตและวิญญาณของข้าพเจ้าสรรเสริญและชื่นชมยินดีในพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอด เพราะพระผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับข้าพเจ้า ชื่อของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง"
ทูตสวรรค์จึงบอกกับนางว่า “ไม่ต้องกลัวมารีย์ เพราะพระเจ้าชื่นชอบในตัวเจ้ามาก ฟังนะ เจ้าจะตั้งท้องและคลอดลูกชาย ให้ตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะยิ่งใหญ่ และจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้าผู้สูงสุด พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตจะทำให้เขาเป็นกษัตริย์เหมือนกับดาวิดบรรพบุรุษของเขา เขาจะปกครองบรรดาลูกหลานของยาโคบตลอดไป และอาณาจักรของเขาจะไม่มีวันเสื่อมสลาย”
เมื่อเอลีซาเบธตั้งท้องได้ห้าเดือนย่างเข้าเดือนที่หก พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์กาเบรียลไปที่เมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี เพื่อมาหาหญิงพรหมจรรย์ชื่อมารีย์ เธอเป็นคู่หมั้นของโยเซฟคนที่สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด ทูตสวรรค์มาหานาง และพูดว่า “สวัสดี หญิงเอ๋ย พระเจ้าอวยพรเจ้าจริงๆ และองค์เจ้าชีวิตอยู่กับเจ้าเป็นพิเศษ”
กษัตริย์เฮโรดจึงเรียกให้พวกหัวหน้านักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติทุกคนมาประชุมกัน และถามว่า “พระคริสต์ควรจะเกิดที่ไหน” พวกเขาตอบว่า “ที่เบธเลเฮม ในแคว้นยูเดียครับท่าน” เพราะผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ว่า ‘หมู่บ้านเบธเลเฮมในแผ่นดินยูดาห์ พวกเจ้าไม่ใช่แค่หมู่บ้านกระจอกๆ หมู่บ้านหนึ่งในแผ่นดินยูดาห์ เพราะจะมีผู้นำคนหนึ่งออกมาจากพวกเจ้า เป็นผู้ที่จะมาเลี้ยงดูอิสราเอล ประชาชนของเรา’"
แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พระเจ้าก็ได้ส่งพระบุตรของพระองค์โดยคลอดออกมาจากผู้หญิง และมีชีวิตอยู่ภายใต้กฎ เพื่อมาปลดปล่อยคนที่อยู่ภายใต้กฎให้เป็นอิสระ และเพื่อเราทุกคนจะได้เป็นลูกของพระเจ้า
เพราะอย่างนี้แหละ องค์เจ้าชีวิตเองจะให้สิ่งที่พิสูจน์กับพวกท่าน ดูนะ หญิงสาวคนนั้นตั้งท้องอยู่ และกำลังจะคลอดลูกชาย เธอจะตั้งชื่อลูกว่า อิมมานูเอล
แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้า เหมือนเรา มาจากท่ามกลางพวกท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่าน พวกท่านต้องเชื่อฟังเขา
เราเป็นเถาองุ่น พวกคุณเป็นกิ่ง ถ้าคุณติดสนิทกับเราและเราติดสนิทกับคุณ คุณจะออกลูกมาก ถ้าไม่มีเราคุณจะทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อคุณเกิดผลมาก แสดงว่าคุณเป็นศิษย์ของเรา และคุณได้ทำให้คนเห็นความยิ่งใหญ่ของพระบิดาของเรา
พระเยซูบอกว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีใครไปถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา"
พระเยซูพูดอีกว่า “เราเป็นคนที่ทำให้คนทั้งหลายฟื้นขึ้นมาใหม่และให้ชีวิตกับเขา ทุกคนที่ไว้วางใจเราแม้จะตายไปแล้วก็จะกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่อีก และทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่และไว้วางใจในเราก็จะไม่มีวันตาย มารธาเชื่ออย่างนั้นไหม"
เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะก็รู้จักเราด้วย เหมือนกับที่พระบิดารู้จักเราและเราก็รู้จักพระบิดา เราสละชีวิตของเราเพื่อรักษาแกะของเราให้รอด
พระเยซูพูดอีกว่า “เราจะบอกความจริงให้รู้ว่า เราเป็นประตูของพวกแกะ เราเป็นประตู คนที่เข้ามาโดยผ่านทางเราจะรอด เขาจะเข้าออกและเจอทุ่งหญ้าเขียวขจี ขโมยมาเพื่อลัก ฆ่า และล้างผลาญทำลาย แต่เรามาเพื่อเขาจะได้มีชีวิตแท้ คือชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข
แล้วพระเยซูก็พูดกับพวกที่ชุมนุมอยู่อีกครั้งหนึ่งว่า “เราเป็นความสว่างของโลก คนที่ติดตามเรามาจะไม่เดินอยู่ในความมืด แต่จะมีความสว่างที่นำไปสู่ชีวิต”
พระเยซูพูดว่า “ตัวเรานี่แหละคือขนมปังที่ให้ชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิวอีกเลย และคนที่ไว้วางใจเราจะไม่กระหายน้ำอีกเลย
ในสมัยก่อน พระเจ้าได้พูดกับบรรพบุรุษของเรา พระองค์พูดผ่านทางผู้พูดแทนพระเจ้า หลายครั้งด้วยวิธีการที่หลากหลาย แต่ในยุคสุดท้ายนี้ พระองค์พูดกับเราผ่านทางพระบุตร พระบุตรนั้นเป็นผู้ที่พระองค์แต่งตั้งให้รับทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมรดก พระเจ้าสร้างจักรวาลโดยผ่านทางพระบุตรด้วย
ตอนเริ่มต้นก่อนที่โลกนี้จะเกิดขึ้นก็มีพระคำอยู่แล้ว พระคำนี้อยู่กับพระเจ้า และเป็นพระเจ้าด้วย พระคำอยู่กับพระเจ้าตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่โลกนี้จะเกิดขึ้น พระคำได้กลายมาเป็นมนุษย์ และใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกเรา พระคำนั้นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและความจริง พวกเราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งเป็นความยิ่งใหญ่ของพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระบิดา