ข้อคิดเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์วันนี้
มันน่าสนใจมาก ที่พระคัมภีร์ไม่ได้บอกแค่ว่าพระเจ้ารักเราแล้วจบแค่นั้น แต่ยังบอกต่อไปอีกว่า "พระเจ้าได้สำแดงความรักของพระองค์..." หรือว่า "นี่แหละคือความรัก คือว่าไม่ใช่เรารักพระเจ้า แต่เป็นพระเจ้าต่างหากที่รักเราและได้ประทาน..." หรือว่า "เพราะพระเจ้าทรงรักโลกมาก จนได้ประทาน..." ความรักเป็นมากกว่าอารมณ์ หรือความตั้งใจ ความรักที่แท้จริง ความรักแห่งการช่วยกู้ ความรักในแบบพระเจ้านั้นเป็นความรักที่มีการกระทำ มีการลงมือทำอะไรสักอย่างไม่ใช่รักเฉยๆ สำหรับเรานั้น พระเยซูทำมากยิ่งกว่าอะไรสักอย่าง เพราะพระองค์สละทุกสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ทำให้ตอนที่เราจำเป็นต้องได้มันอย่างยิ่ง คือพระองค์สำแดงความรักของพระองค์ในขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่
Thoughts on Today's Verse...
Interestingly, the Bible doesn't ever just say that God loves us. Instead, it says: "God demonstrated his love..." "In this is love, not that we loved God but that God loved us and gave..." "For God so loved the world that he gave..." Love is more than emotion or intention. True love, redemptive love, God-styled love is active; it does something. For us, Jesus did more than something; he sacrificed everything. What's more, he did it when we most needed it. He demonstrated his love when we were sinners!
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ขอบคุณที่รักข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารักพระองค์ รักในสิ่งที่พระองค์ทำ รักในสิ่งที่พระองค์เป็น รักในสิ่งที่พระองค์สัญญา และรักในความสัตย์ซื่อของพระองค์ พระบิดาที่รัก ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้ารักพระองค์เพราะพระเยซู ผู้ที่แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้า โปรดเสริมกำลังข้าพเจ้าที่จะสำแดงความรักนั้นออกมา ด้วยการรับใช้และการให้ เหมือนกับที่พระเยซูได้ทำด้วยเถิด อธิษฐานในนามของพระเยซู อาเมน
My Prayer...
Father, thank you for loving me. I love you. I love you for what you've done. I love you for who you are. I love you for your promises. I love you for your faithfulness. Most of all, dear Father, I love you because of Jesus who showed me just how much you love me. Please empower me to show my love by serving and giving to others as Jesus did. In his name I pray. Amen.